จากหนุ่มบ้านนาที่มีใจรักในเสียงเพลง สู่ “ซุปตาร์เดินดินพันล้านวิว”

การดำเนินชีวิตของแต่ละคนต่างมีความฝันสู่เส้นทางความสำเร็จกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นคนกำหนด เช่นเดียวกับ อาทิตย์ สมน้อย หรือที่รู้จักกันในนาม เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม นักร้องลูกทุ่งเสียงอีสาน คนบ้านนา มุ่งหน้าทำตามความฝัน จนได้รับฉายา “ซุปตาร์เดินดินพันล้านวิว” ที่ผู้ใหญ่และแฟนคลับมอบให้ และมีอีกหนึ่งฉายาที่เบิ้ลได้รับตอนเข้ามาวงการแรกๆ คือ “เน็ตไอดอลบ้านนา” จากการแจ้งเกิดด้วยภาพลักษณ์ที่เขานั่งดีดกีตาร์ร้องเพลง ที่แต่งขึ้นเองครั้งแรก ชื่อเพลง “หนุ่มบ้านนาตามหาฝัน” อยู่เถียงนา ซึ่งเป็นช่วงที่เบิ้ลมาทำงานต่างถิ่นมีแต่กีตาร์คู่ใจที่แม่ส่งเงินมาให้ซื้อเพราะลูกบ่นอยากได้ เขาเลยร้องเพลงอัดวิดีโอลงเฟซบุ๊กเล่นๆ ไม่ได้คาดคิดว่าตนเองจะได้เป็นนักร้อง แค่รู้สึกรักในการร้องเพลง แต่กลับได้รับความสนใจจากผู้ชมที่เข้ามาดู เกิดการแชร์ ซึ่งสมัยนั้นมีเพจยอดฮิตอยู่เพจนึงที่ทุกคนต้องรู้จักอย่าง “youlike คลิปเด็ด” ได้แชร์คลิปของเขา จากนั้นทำให้มีคนเข้ามาติดตาม เบิ้ล มากขึ้น จากที่เมื่อก่อนมีคนกดไลค์ 10 คน ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นหลัก 100 จนทุกวันนี้เป็นหลักหมื่น กระทั่งประจวบเหมาะเขาได้รับโอกาสทาบทามเข้าสังกัด อาร์สยาม ทำเพลง ในวงการเพลงลูกทุ่ง ผลงานเพลงแรกชื่อว่า “อ้ายมีเหตุผล” เป็นบทเพลงที่โด่งดังไปทั่วภาคอีสานเลยทีเดียว รวมไปถึงเริ่มเป็นที่รู้จัก มีแฟนคลับมากขึ้น ถือว่าเป็นเพลงแรกของค่ายอาร์สยามที่มียอดวิวร้อยล้าน เขาก็ยังคงทำผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ ทุกเพลงมียอดวิวร้อยล้านอยู่ตลอด กลายเป็นว่าทุกเพลงที่เขาผลิตออกมายอดวิวรวมกันมากถึง 1 พันล้านวิว ระยะเวลาเพียง 5 ปี จนกระทั่งเฮียฮ้อ  ประธานกรรมการบริหารบริษัท อาร์เอส ตั้งฉายาให้ เบิ้ล ปทุมราช คือ “ซุปเปอร์สตาร์เดินดินที่มียอดวิวพันล้านวิวคนนึง” เบิ้ลมีพรสวรรค์ทั้งน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์และการแต่งเพลงที่ติดหูคนฟัง ปัจจุบัน เบิ้ล ได้โชว์ทักษะที่ตนมีหลากหลาย ทั้งนักร้องและการเป็นพิธีกรในรายการ “ลูกทุ่งไอดอล” ที่เป็นตัวเอง “ผมเป็นคนที่พูดไทยไม่ชัด ผมยังมีสำเนียงของอีสานติดมาอยู่ พี่จะให้ผมเป็นพิธีกร พี่รู้ได้ไงว่าผมจะทำได้” ประโยคที่เขารู้สึกไม่มั่นใจ แต่เขากลับรู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ได้มอบโอกาสและเชื่อมั่นในตัวเขา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ซึ่งเขาเองก็มีความสุข รู้สึกท้าทาย เขาเลยคิดว่าคนเราเกิดมาต้องมีสิ่งที่อยากจะทำและสิ่งที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นเราจะเลือกสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่เราถนัดตลอดไปไม่ได้ มันต้องมีสิ่งที่ท้าทายบ้าง มากไปกว่านั้นเขาคนนี้ยังเป็นทั้งผู้จัดภาพยนตร์ของเมเจอร์, ผู้จัดละคร และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโปรดิวเซอร์เพลง รวมไปถึงตอนนี้เปิดบริษัท แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม ที่ผลิตซีรีส์และเพลงให้เด็กๆ ในสังกัดได้ทำตามความฝันด้วย เป็นเหตุให้เบิ้ล เปิดช่องยูทูบไว้ถ่ายทอดผลงานสู่สายตาของแฟนๆ ในชื่อ เบิ้ล ปทุมราช ถึงทุกวันนี้ จากพลังความมุ่งมั่นของตัวเอง เขาคือแรงบันดาลใจของใครหลายๆ คนและเป็นนักร้องยอดกตัญญู

นักร้องลูกทุ่งบ้านนา ที่มีน้ำเสียงและไลฟ์สไตล์การแต่งตัวเป็นเอกลักษณ์ วันนี้ซุปเปอร์เฟรนส์ได้สัมภาษณ์เจาะลึกถึงแนวทางในการเลือกใส่เครื่องแต่งกายให้ดูดีฉบับศิลปินของ เบิ้ล ปทุมราช ว่าเขามีทริคอะไร เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้อ่านนำมาประยุกต์ให้เข้ากับตัวเองได้ มันอาจจะกลายเป็นการแต่งตัวที่โดดเด่นเฉพาะตัวได้เลยทีเดียว

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : พูดถึงไลฟ์สไตล์แฟชั่นในการแต่งตัวของเบิ้ล

(เบิ้ล ปทุมราช) : “แฟชั่นในการแต่งตัว ผมชอบแนวผสมผสานครับ เป็นแนวเกาหลี ผู้ชายออกแนวอิตาลี แนวแบบฟรีสไตล์  ผสมผสานใส่ได้ทั้งแบบเกาหลีและฝรั่ง ผสมๆกันไป ผมจะไม่ยึดตายตัว กางเกงขาตัด เสื้อขาว เสื้อหนัง หรือจะเป็นเสื้อฮู้ดก็ได้”

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : แชร์ทริคการมิกซ์แอนด์แมตช์ เสื้อผ้าในแบบเบิ้ล

(เบิ้ล ปทุมราช) : “เป็นคนชอบแต่งตัวโทนสีดำ แต่จริงๆ ก็ได้ทุกสี ออกโทนสีเข้มมืด จะทำให้ตัวเองดูผอมและเข้ารูป ประมาณนี้ครับ”

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : เบิ้ลมีไอเทมหรือเครื่องประดับชิ้นไหนที่ขาดไม่ได้

(เบิ้ล ปทุมราช) : “สิ่งของหรือเครื่องประดับที่ขาดไม่ได้ คือชอบใส่กำไล ต่างหู สร้อย ที่เป็นโทนสีทอง รู้สึกว่าช่วยเพิ่มสีสัน เพิ่มเลเยอร์ให้ข้อมือของเรา โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา”

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : เบิ้ลคิดยังไงกับคำว่า “แฟชั่น”

(เบิ้ล ปทุมราช) : “ผมว่าแฟชั่นมันเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนขาดไม่ได้ แม้กระทั่งการใส่เสื้อยืดกับรองเท้าแตะ มันก็คือแฟชั่นของแต่ละคน ผมก็เลยคิดว่าแฟชั่นสำหรับผมนั้นสำคัญ อย่างถ้าเราไปต่างประเทศเราแต่งตัวเสื้อยืดมันก็ไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย แต่สำหรับผมแฟชั่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ละคนก็จะมีแฟชั่นที่แตกต่างคนละสไตล์”

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : เบิ้ลมีใครเป็นไอดอลในเรื่องแฟชั่น

(เบิ้ล ปทุมราช) : “ผมไม่มีไอดอลในการแต่งตัว เพราะรู้สึกว่าฟรีสไตล์ ไม่มีถูกผิด อยากมิกซ์แอนด์แมตช์อะไรตามความชอบส่วนตัว ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวเองแค่นั้นเลย”

ตลอดการสัมภาษณ์ทำให้มีความรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความธรรมชาติในตัวสูงมาก มีแต่ความจริงใจทั้งภายในและภายนอก ทำให้ได้รู้จักเบิ้ล ปทุมราช ในอีกแง่มุมนึง ซึ่งนี่ก็คือ หัวใจหลักสำคัญของงานดีไซน์ที่ เบิ้ล ปทุมราช จับมือกับ superfriends (ซุปเปอร์เฟรนส์) ผลิตชิ้นงานที่สะท้อนความเป็นตัวเองผ่านลายกราฟิกในแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ที่มีคอนเซ็ปต์ทำให้โลกรู้ว่า คุณคือใคร ด้วยการดึงเอกลักษณ์ของคุณบอกผ่านไอเทมต่างๆ แฝงไปกับชีวิตประจำวันของทุกคน

(ซุปเปอร์เฟรนส์) : เบิ้ลมีไอเดียหรือแรงบันดาลใจอะไร ในการดีไซน์

(เบิ้ล ปทุมราช) : “เบิ้ลเป็นคนที่มีไอเดียไม่หยุดนิ่ง แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุด ยึดมั่นในโทน luxury สีทอง สีดำ สีเทา  จะเป็นโทนแนวมืดๆ ไม่สว่าง แต่ถ้าเป็นแนวการพักผ่อน ไอเดียการเขียนงานจะมีหลายแบบ ก็จะชอบมุมมืดๆ ดาร์กๆ ชอบความคลาสิกมากกว่าความโมเดิร์นสีขาวๆ แต่ถ้าเป็นข้างนอกหรือร้านกาแฟ จะชอบแนวสีขาว สะอาด ไอเดียก็เลยไม่ค่อยอยู่กับที่เท่าไหร่ อยู่ที่ว่าตอนนั้นต้องการอารมณ์ไหนมากกว่า เลยเลือกสีที่จะดีไซน์เป็นโทนสีเข้ม คือสีน้ำเงิน และสีดำ และใส่ความเป็นตัวเองด้วยข้อความ life&freedom ที่เป็นตัวเองชอบไลฟ์สไตล์ที่อิสระไร้ขีดจำกัด ออกนอกกรอบ ไปสุดในทุกๆ ด้าน บวกกับเลข 9 ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้า”

และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เป็นตัวตนของเบิ้ล ปทุมราช นักสู้ชีวิตที่ชีวิตพลิกผันจากการพัฒนาตัวเองสู่ “ซุปเปอร์สตาร์เดินดินพันล้านวิว” และมีจุดขายที่น้ำเสียง ความฮา ความติสท์ ในแบบของตัวเองจนทำให้หลายคนยอมรับ แล้วเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้ รวมไปถึงทัศนคติทางสังคมหลายเรื่อง จนกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน

อ้างอิง : บทสัมภาษณ์ เบิ้ล ปทุมราช โดย superfriends / รูปภาพประกอบจาก Instagram : ble_patumrach_smile